เรื่องราวของเต็นท์
เต็นท์
• โดยหลัก ๆ แล้ว เต็นท์มีหน้าที่ ป้องกันแมลง สัตว์ ลม และน้ำ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของเต็นท์จะช่วยในการแบ่งหน้าที่ ในการป้องกันที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้
1. ฟลายชีท เป็นส่วนที่คลุมด้านบน ทำหน้าที่ ลดการเกิดหยดน้ำในเต็นท์และช่วยกันฝน ลมและแสงแดด
2. ตัวเต็นท์ ทำหน้าที่ ป้องกันแมลง สัตว์มีพิษ และช่วยกันลม กันฝน วัสดุที่นำมาผลิต ผ้าใยสังเคราะห์ ( ไนลอน,โพลีเอสเตอร์) ตัวเต็นท์ที่ดี ควรเป็นผ้าไม่เคลือบกันน้ำ (ถ้ามีฟลายชีท) และมุ้งที่กันแมลงตัวเล็กได้
3. พื้นเต็นท์ เป็นส่วนด้านล่างทำหน้าที่ในป้องกันน้ำ วัสดุที่นำมาผลิต ผ้าใยสังเคราะห์ (โพลีเอสเตอร์,โพลิโพไพลีน )
เราไปดูกันต่อครับว่าพื้นเต็นท์ที่ดีควรเป็นยังไง และวิธีดูแลรักษาเต็นท์ที่ถูกต้อง เราจะต้องทำอย่างไร….
• พื้นเต็นท์ที่ดี ควรใช้ผ้าผืนเดียวหรือมีการต่อแบบกันน้ำ มุมทั้ง 4 ด้านควรยกขึ้นจากพื้นเมื่อกางเต็นท์
เสาเป็นส่วนโครงสร้าง ทำให้เต็นท์ตั้งขึ้นเป็นรูปร่าง วัสดุที่นำมาผลิต ไฟเบอร์ใยแก้ว หรือ อลูมิเนียม เนื่องการเสาเต็นท์ที่ทำด้วยไฟเบอร์ใยแก้วอาจจะมีการแตกหักได้ด้วยสาเหตุหลายอย่าง ดังนั้นควรมีเทปปิดสันหนังสือปิดเมื่อมีการหัก ส่วนเสาที่ทำด้วยอลูมิเนียมมีความทนทานสูง
สมอบก สมอบกมีอยู่หลายแบบ วัสดุที่นิยมนำมาใช้ เหล็กชุบซิ้งค์, อลูมิเนียมเกรดอากาศยาน(ทำเครื่องบิน) ไฟเบอร์ใยแก้ว,พลาสติก ABS, รวมไปถึงไม้
– รูปเข็ม เป็นสมอบกที่มาพร้อมกับเต็นท์ สามารถใช้ในพื้นที่เป็นดินได้ดี
– รูปฉาก เป็นสมอบกสมัยโบราณเอาไว้ใช้กับพื้นที่เป็นทราย
– รูปตัวไอ เป็นสมอบกที่ถูกพัฒนาให้มีด้านเสียดสีหลายด้านจึงทำให้ยึดเกาะได้ดีในเกือบทุกสภาพ
– แบบถุงผ้า เป็นสมอบกที่ใช้กับทรายเท่านั้นสามารถพับเก็บได้ เล็กและไม่ทำอันตรายกับผ้าเต็นท์ในเวลาที่เก็บเต็นท์ในถุง
– วัสดุไขว้รูปตัว X เป็นวัสดุ 2 ชิ้นแบนและตรงเจาะรูตรงกลางทั้ง 2 อัน เมื่อเวลาใช้ก็กางออกเป็นรูปตัวX ใช้กับทราย
วิธีดูแลรักษาเต็นท์
• การดูแลรักษาเต็นท์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยาก ลองอ่านวิธีการเหล่านี้ดูแล้วคุณจะรู้ว่า การดูแลเต็นท์นั้นง่ายนิดเดียว
1. ฝึกกางเต็นท์ให้ถูกวิธี การที่คุณเรียนรู้วิธีการกางเต็นท์อย่างถูกวิธี จะทำให้เต็นท์ของคุณไม่เกิดความเสียหาย เพราะบางครั้งการกางเต็นท์ไม่ถูกวิธี อาจทำให้อุปกรณ์บางชิ้นเกิดความเสียหายได้ เช่น อาจจะใส่เสาเต็นท์ผิดอันทำให้เกิดความเสียหายเวลางอเสาเข้ากับเต็นท์ เป็นต้น
2. อย่าเก็บเต็นท์ของคุณขณะที่เปียกถ้าไม่จำเป็น เพราะอาจจะทำให้เกิดกลิ่นอับได้ เราควรจะนำเต็นท์มาผึ่งลมให้แห้งก่อนและนำเศษสิ่งสกปรกออกจากเต็นท์ แล้วจึงปิดซิปให้เรียบร้อย
3. ไม่ควรใช้สารเคมีในการทำความสะอาดเต็นท์ เพราะสารเคมีเหล่านี้จะทำลายสารที่เคลือบเต็นท์ไว้ ควรใช้แค่ผ้าชุบน้ำเช็ดก็พอ ห้ามใช้แปรงขัดเพราะแปรงจะทำให้สารเคลือบหลุดออกเช่นกัน
4. ใช้ผ้าพลาสติกปูรองพื้น ผ้ารองพื้นจะใช้ปูรองพื้นก่อนกางเต็นท์ ประโยชน์คือช่วยปกป้องตัวเต็นท์จากหินและกิ่งไม้อันแหลมคม ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้พื้นเต็นท์เกิดความเสียหายได้ และนอกจากนี้ยังช่วยลดเวลาในการทำความสะอาด เพราะเราเพียงแต่ทำความสะอาดที่ผ้าปูเท่านั้น
5. ใช้สมอบกปักเต็นท์ บางคนอาจคิดว่าสมอบกไม่จำเป็นเพราะเต็นท์สามารถทรงตัวได้อยู่แล้ว แต่บางครั้งเมื่อลมแรงเต็นท์อาจจะมีการพลิกซึ่งอาจจะทำให้เต็นท์เสียหาย ถ้าช่วงที่คุณกางเต็นท์มีลมแรงควรจะนำสัมภาระเข้าไปไว้ในเต็นท์แล้วปักสมอบกยึดไว้ ซึ่งจะช่วยป้องกันเต็นท์พลิกจากแรงลมได้
6. ใช้อุปกรณ์ซ่อมแซมเต็นท์ถ้าจำเป็น หากเต็นท์คุณเกิดการเสียหาย เช่น ผนังเต็นท์มีรอยฉีกขาด ควรใช้พวกผ้าเทปปิดรอยขาดนั้นไว้ มิฉะนั้นรอยขาดนั้นจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ (ลองคิดถึงเสื้อผ้าที่ขาดดู ถ้าเรายิ่งดึงก็จะยิ่งขาดมากขึ้น) อุปกรณ์ซ่อมแซมเต็นท์สามารถหาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์แค้มปิ้งทั่วไป
• เป็นยังไงบ้างครับทีนี้เราก็ได้รู้แล้วว่าวิธีการดูแลรักษาเต็นท์นั้น ไม่ได้ยุ่งยากเลย บทความหน้าผมจะพูดถึงการเลือกซื้อเต็นท์ และวิธีการลดการเกิดหยดน้ำในเต็นท์
ขอขอบคุณบทความจาก : Outdoor
บทความโดย : 2hythm
13.603304
100.703822